วันจันทร์ที่20มกราคม2568 อสม.บ้านถ่อนหมู่ 2 พร้อมนายภานุพงษ์ บุญญรังษ์ผุ้ใหญ่บ้านบ้านถ่อนหมู่ 2 และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน,ผู้นำชุมชน - เยี่ยม ผู้สูงอายุ
-เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง- เยี่ยมผู้พิการ ประจำเดือน มกราคม2568
-เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง- เยี่ยมผู้พิการ ประจำเดือน มกราคม2568
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบัน ปัญหาด้านเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะวิกฤติ โดยปกติเป็นหน้าที่ของท้องถิ่นอยู่แล้ว ในการส่งเสริมกิจกรรมด้านสุขภาพ เพื่อให้ผู้สูงอายุเข้่ถึงการบริการสาธารณะ รวมทั้งคนพิการผู้สูงอายุ ที่ช่วยเหลือตนเองได้ และผู้สูงอายุและคนพิการทีไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จึงเป็นภาระต่อครอบครัวที่ต้องดูแลด้านต่างๆให้กับผู้สูงอายุและคนพิการ ส่วนหนึ่งผู้ดูแลผู้พิการยังขาดความรู้ความเข่าใจ
ปัจจุบัน ปัญหาด้านเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะวิกฤติ โดยปกติเป็นหน้าที่ของท้องถิ่นอยู่แล้ว ในการส่งเสริมกิจกรรมด้านสุขภาพ เพื่อให้ผู้สูงอายุเข้่ถึงการบริการสาธารณะ รวมทั้งคนพิการผู้สูงอายุ ที่ช่วยเหลือตนเองได้ และผู้สูงอายุและคนพิการทีไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จึงเป็นภาระต่อครอบครัวที่ต้องดูแลด้านต่างๆให้กับผู้สูงอายุและคนพิการ ส่วนหนึ่งผู้ดูแลผู้พิการยังขาดความรู้ความเข่าใจ
ในการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายด้านจิตใจ ทำให้ผู้สูงอายุและผู้พิการบางคนมีความรู้สึกท้อแท้ เหนื่อยหน่ายต่อชีวิต ขาดกำลังใจในการดำรงชีวิต บางตนถึงกับไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป การเยี่ยมบ้านผู้พิการ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง เป็นการบริกรด้านสุขภาพในเชิงรุกอีกวิธีหนึ่ง
เป็นวิธีที่มีความสำคัญต่อการแก้ไขปัยหาสุขภาพของประชาชนในยุคปัจจุบัน ในปัจจุบันมีกลุ่มผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียงจำนวนวมาก ชุมชนบ้านถ่อนหมู่2เป็นชุชนขนาดกลางการเยี่ยมบ้าน เป็นการค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนได้อีกทางหนึ่ง
และออกรณรงค์ กำจัดลูกน้ำยุงลายทุกหลังค่าเรือน ยุงลายที่เป็นต้นเหตุไข้เลือดออกร้อยละ 95 อยู่ตามบริเวณสวน โดยยุงตัวเมียมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 45 วัน หลังผสมพันธุ์แค่ครั้งเดียว สามารถวางไข่ตัวละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 1,000-2,000 ฟอง การเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกถือเป็นงานที่ท้าทายการบริหารจัดการของผู้บริหารทุกระดับ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ความรู้ความเข้าใจ และขอความร่วมมือประชาชนให้ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเพื่อลดปริมาณยุงให้น้อยที่สุด ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูกาลที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกสูงที่สุดในการกำจัดยุงลาย ต้องช่วยกันดูแล ปิดฝาโอ่งน้ำกินน้ำใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายเข้าไปวางไข่ ส่วนในภาชนะเล็กๆ ในบ้านเรือน เช่น แจกัน ไม้ประดับ น้ำที่อยู่ในจานรองกระถางต้นไม้ น้ำในเล้าไก่เลี้ยงตามบ้าน ให้เปลี่ยนน้ำ เททิ้งทุก 7 วัน โดยเฉพาะจุดเสี่ยงที่สุดคือในห้องน้ำ โดยทั่วไปจะมีสภาพชื้น เย็น และมีมุมอับมืด จะเป็นที่ซ่อนตัวของยุงลายได้ จึงต้องหมั่นดูว่ามีลูกน้ำยุงลายหรือไม่ หากพบว่ามีแม้แค่ตัวเดียว ก็ให้ตักทิ้งไป หรือใช้น้ำให้หมดไป และถ่ายน้ำทิ้ง จะเป็นวิธีกำจัดยุงลายที่ดีที่สุด การพ่นหมอกควันไม่สามารถป้องกันในระยะยาว เป็นเพียงการควบคุมชั่วคราวเพื่อฆ่ายุงลายตัวแก่ในบริเวณที่มีการระบาด เพื่อไม่ให้ยุงที่มีเชื้อไปกัดหรือวางไข่ต่อที่อื่นๆ อีก วิธีกำจัดลูกน้ำ
วิธีทางเคมี และชีวภาพที่นำมาใช้กำจัดลูกน้ำ ได้แก่
1. แบคทีเรียกำจัดลูกน้ำ Bacillus thuringiensis israelensis และ Bacillus sphaericus2. สารหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแมลง เช่น methoprene
3. ยาฆ่าแมลงในกลุ่มสารออร์แกโนฟอสเฟต เช่น temephos
4. น้ำมันแร่ (mineral oils)
5. แผ่นฟิล์มโมเลกุลเดียว (monomolecular films)
ทรายกำจัดลูกน้ำ
1. ทรายกำจัดลูกน้ำ เป็นทรายที่ถูกเคลือบด้วยสารเคมีที่มีชื่อสามัญว่า “ทีมีฟอส” (temephos) เป็นสารเคมีสังเคราะห์ในกลุ่มออร์แกโนฟอสเฟต ใช้ใส่ในน้ำเพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลาย อัตราส่วนที่ใช้ คือ ทรายกำจัดลูกน้ำ 1 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร หากใช้ทรายกำจัดลูกน้ำตามอัตราที่กำหนดให้นี้จะไม่มีอันตรายต่อผู้บริโภค
2. เป็นสารออกฤทธิ์ทำลายระบบประสาท และการหายใจของลูกน้ำยุงต่างๆ สารทีมีฟอสมีความเป็นพิษสูงต่อตัวอ่อนของยุง รวมทั้งแมลงอื่นๆ เช่น ริ้น แมลงวันฝอยทราย แมลงหวี่ขน แมลงวันริ้นดำ และเหา จากการศึกษาพบว่ามีพิษน้อยต่อคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ แต่ยังมีความเป็นพิษสูงต่อนกบางชนิด
3. ทรายกำจัดลูกน้ำที่ผลิตออกมาจำหน่ายมีหลายชื่อการค้า เช่น อะเบท (ABATE) เคมฟลีท แซนดาเบต (Chemfleet Sandabate) ลาวิฟอส เอสจี (Lavifos SG) เป็นต้น
4. ทรายกำจัดลูกน้ำได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกว่า ปลอดภัยสำหรับการใส่ในน้ำดื่ม แต่มีข้อจำกัดที่ราคาค่อนข้างแพง
โอ่งน้ำ สำหรับโอ่งน้ำ ควรใช้วิธีปิดฝาให้มิดชิด ปิดปากโอ่งน้ำดื่มด้วยผ้ามุ้งหรือตาข่ายไนล่อน คาดเชือกรอบปากโอ่งให้แน่น แล้วจึงปิดทับชั้นนอกด้วยฝาอะลูมิเนียม เพื่อป้องกันฝุ่นละออง การปิดปากโอ่งด้วยฝาอะลูมิเนียมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับโอ่งน้ำใช้ที่ต้องใช้น้ำอยู่เป็นประจำ ให้หุ้มฝาอะลูมิเนียมด้วยผ้ามุ้งอย่างหลวมๆ เวลาปิดฝา ชายผ้าจะกรอมลงไปกับตัวโอ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้ยุงลายเล็ดลอดเข้าไปวางไข่ในโอ่งได้
วิธีกำจัดลูกน้ำ
วิธีทางเคมี และชีวภาพที่นำมาใช้กำจัดลูกน้ำ ได้แก่
1. แบคทีเรียกำจัดลูกน้ำ Bacillus thuringiensis israelensis และ Bacillus sphaericus
2. สารหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแมลง เช่น methoprene
3. ยาฆ่าแมลงในกลุ่มสารออร์แกโนฟอสเฟต เช่น temephos
4. น้ำมันแร่ (mineral oils)
5. แผ่นฟิล์มโมเลกุลเดียว (monomolecular films)
1. แบคทีเรียกำจัดลูกน้ำ Bacillus thuringiensis israelensis และ Bacillus sphaericus2. สารหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแมลง เช่น methoprene
3. ยาฆ่าแมลงในกลุ่มสารออร์แกโนฟอสเฟต เช่น temephos
4. น้ำมันแร่ (mineral oils)
5. แผ่นฟิล์มโมเลกุลเดียว (monomolecular films)
ทรายกำจัดลูกน้ำ
1. ทรายกำจัดลูกน้ำ เป็นทรายที่ถูกเคลือบด้วยสารเคมีที่มีชื่อสามัญว่า “ทีมีฟอส” (temephos) เป็นสารเคมีสังเคราะห์ในกลุ่มออร์แกโนฟอสเฟต ใช้ใส่ในน้ำเพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลาย อัตราส่วนที่ใช้ คือ ทรายกำจัดลูกน้ำ 1 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร หากใช้ทรายกำจัดลูกน้ำตามอัตราที่กำหนดให้นี้จะไม่มีอันตรายต่อผู้บริโภค
2. เป็นสารออกฤทธิ์ทำลายระบบประสาท และการหายใจของลูกน้ำยุงต่างๆ สารทีมีฟอสมีความเป็นพิษสูงต่อตัวอ่อนของยุง รวมทั้งแมลงอื่นๆ เช่น ริ้น แมลงวันฝอยทราย แมลงหวี่ขน แมลงวันริ้นดำ และเหา จากการศึกษาพบว่ามีพิษน้อยต่อคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ แต่ยังมีความเป็นพิษสูงต่อนกบางชนิด
3. ทรายกำจัดลูกน้ำที่ผลิตออกมาจำหน่ายมีหลายชื่อการค้า เช่น อะเบท (ABATE) เคมฟลีท แซนดาเบต (Chemfleet Sandabate) ลาวิฟอส เอสจี (Lavifos SG) เป็นต้น
4. ทรายกำจัดลูกน้ำได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกว่า ปลอดภัยสำหรับการใส่ในน้ำดื่ม แต่มีข้อจำกัดที่ราคาค่อนข้างแพง
โอ่งน้ำ สำหรับโอ่งน้ำ ควรใช้วิธีปิดฝาให้มิดชิด ปิดปากโอ่งน้ำดื่มด้วยผ้ามุ้งหรือตาข่ายไนล่อน คาดเชือกรอบปากโอ่งให้แน่น แล้วจึงปิดทับชั้นนอกด้วยฝาอะลูมิเนียม เพื่อป้องกันฝุ่นละออง การปิดปากโอ่งด้วยฝาอะลูมิเนียมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับโอ่งน้ำใช้ที่ต้องใช้น้ำอยู่เป็นประจำ ให้หุ้มฝาอะลูมิเนียมด้วยผ้ามุ้งอย่างหลวมๆ เวลาปิดฝา ชายผ้าจะกรอมลงไปกับตัวโอ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้ยุงลายเล็ดลอดเข้าไปวางไข่ในโอ่งได้
วิธีกำจัดลูกน้ำ
วิธีทางเคมี และชีวภาพที่นำมาใช้กำจัดลูกน้ำ ได้แก่
1. แบคทีเรียกำจัดลูกน้ำ Bacillus thuringiensis israelensis และ Bacillus sphaericus
2. สารหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแมลง เช่น methoprene
3. ยาฆ่าแมลงในกลุ่มสารออร์แกโนฟอสเฟต เช่น temephos
4. น้ำมันแร่ (mineral oils)
5. แผ่นฟิล์มโมเลกุลเดียว (monomolecular films)
ทรายกำจัดลูกน้ำ
1. ทรายกำจัดลูกน้ำ เป็นทรายที่ถูกเคลือบด้วยสารเคมีที่มีชื่อสามัญว่า “ทีมีฟอส” (temephos) เป็นสารเคมีสังเคราะห์ในกลุ่มออร์แกโนฟอสเฟต ใช้ใส่ในน้ำเพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลาย อัตราส่วนที่ใช้ คือ ทรายกำจัดลูกน้ำ 1 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร หากใช้ทรายกำจัดลูกน้ำตามอัตราที่กำหนดให้นี้จะไม่มีอันตรายต่อผู้บริโภค
2. เป็นสารออกฤทธิ์ทำลายระบบประสาท และการหายใจของลูกน้ำยุงต่างๆ สารทีมีฟอสมีความเป็นพิษสูงต่อตัวอ่อนของยุง รวมทั้งแมลงอื่นๆ เช่น ริ้น แมลงวันฝอยทราย แมลงหวี่ขน แมลงวันริ้นดำ และเหา จากการศึกษาพบว่ามีพิษน้อยต่อคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ แต่ยังมีความเป็นพิษสูงต่อนกบางชนิด
3. ทรายกำจัดลูกน้ำที่ผลิตออกมาจำหน่ายมีหลายชื่อการค้า เช่น อะเบท (ABATE) เคมฟลีท แซนดาเบต (Chemfleet Sandabate) ลาวิฟอส เอสจี (Lavifos SG) เป็นต้น
4. ทรายกำจัดลูกน้ำได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกว่า ปลอดภัยสำหรับการใส่ในน้ำดื่ม แต่มีข้อจำกัดที่ราคาค่อนข้างแพง
โอ่งน้ำ
สำหรับโอ่งน้ำ ควรใช้วิธีปิดฝาให้มิดชิด ปิดปากโอ่งน้ำดื่มด้วยผ้ามุ้งหรือตาข่ายไนล่อน คาดเชือกรอบปากโอ่งให้แน่น แล้วจึงปิดทับชั้นนอกด้วยฝาอะลูมิเนียม เพื่อป้องกันฝุ่นละออง การปิดปากโอ่งด้วยฝาอะลูมิเนียมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับโอ่งน้ำใช้ที่ต้องใช้น้ำอยู่เป็นประจำ ให้หุ้มฝาอะลูมิเนียมด้วยผ้ามุ้งอย่างหลวมๆ เวลาปิดฝา ชายผ้าจะกรอมลงไปกับตัวโอ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้ยุงลายเล็ดลอดเข้าไปวางไข่ในโอ่งได้