บุกจับ "อัยการเมืองคอน" เรียกรับเงินเคลียร์คดี รวบคาสนง.ยังปฏิเสธ
ป.ป.ช.-ป.ป.ท. ผนึกกำลัง "บิ๊กเต่า" นำกำลังบุกจับ "อัยการเมืองคอน" คาสำนักงาน พร้อมเงินของกลาง 1.5 แสนบาท หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินวิ่งเต้นเคลียร์คดี
วันที่ 31 ก.ค. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. นำกำลังบุกเข้าจับกุม นายชาตินรินทร์ เกตุกำพล อายุ 53 ปี อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรอง (หัวหน้าองค์คณะอัยการ) ตามหมายจับหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.60 /2567 ลงวันที่ 26 ก.ค. 2567 ข้อหา "เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์โดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นพนักงานอัยการเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งไม่ว่าการนั้น จะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่
เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” จับได้ภายในห้องทำงานสำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมของกลางเงินสด 150,000 บาทสำหรับการเข้าจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายชาตินรินทร์ ซึ่งมีตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรอง (หัวหน้าองค์คณะอัยการ) แต่กลับมีการเรียกรับผลประโยชน์ จากผู้เสียหายที่ถูกดำเนินคดีลักทรัพย์โฉนดที่ดิน โดยอ้างว่า สามารถเคลียร์คดีให้กับผู้เสียหายได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการจำนวน 200,000 บาท ทั้งนี้ ผู้เสียหายเกรงว่า หากไม่ยอมทำตามจะทำให้ถูกกลั่นแกล้ง เนื่องจากปัจจุบันคดีของผู้เสียหายอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของชั้นอัยการ จึงตัดสินใจยอมจ่ายเงินงวดแรกให้ก่อนจำนวน 5 หมื่นบาท จากนั้นได้รีบนำเรื่องเข้าปรึกษากับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จนมีการบูรณาการกำลังร่วมกับทางตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมวางแผนเข้าจับกุมในวันนี้ ซึ่งเป็นวันนัดจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 150,000 บาท จนนำมาสู่การเข้าจับกุมตัวได้พร้อมเงินของกลางดังกล่าว
ขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายในห้องทำงานของนายชาตินรินทร์
เบื้องต้นจากการสอบปากคำ นายชาตินรินทร์ ยังคงให้การปฏิเสธ ซึ่งรายละเอียดคืบหน้าหลังจากนี้ จะมีการรายงานเพิ่มเติมอีกครั้ง
วันที่ 31 ก.ค. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. นำกำลังบุกเข้าจับกุม นายชาตินรินทร์ เกตุกำพล อายุ 53 ปี อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรอง (หัวหน้าองค์คณะอัยการ) ตามหมายจับหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.60 /2567 ลงวันที่ 26 ก.ค. 2567 ข้อหา "เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์โดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นพนักงานอัยการเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งไม่ว่าการนั้น จะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่
เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” จับได้ภายในห้องทำงานสำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมของกลางเงินสด 150,000 บาทสำหรับการเข้าจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายชาตินรินทร์ ซึ่งมีตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรอง (หัวหน้าองค์คณะอัยการ) แต่กลับมีการเรียกรับผลประโยชน์ จากผู้เสียหายที่ถูกดำเนินคดีลักทรัพย์โฉนดที่ดิน โดยอ้างว่า สามารถเคลียร์คดีให้กับผู้เสียหายได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการจำนวน 200,000 บาท ทั้งนี้ ผู้เสียหายเกรงว่า หากไม่ยอมทำตามจะทำให้ถูกกลั่นแกล้ง เนื่องจากปัจจุบันคดีของผู้เสียหายอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของชั้นอัยการ จึงตัดสินใจยอมจ่ายเงินงวดแรกให้ก่อนจำนวน 5 หมื่นบาท จากนั้นได้รีบนำเรื่องเข้าปรึกษากับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จนมีการบูรณาการกำลังร่วมกับทางตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมวางแผนเข้าจับกุมในวันนี้ ซึ่งเป็นวันนัดจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 150,000 บาท จนนำมาสู่การเข้าจับกุมตัวได้พร้อมเงินของกลางดังกล่าว
ขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายในห้องทำงานของนายชาตินรินทร์
เบื้องต้นจากการสอบปากคำ นายชาตินรินทร์ ยังคงให้การปฏิเสธ ซึ่งรายละเอียดคืบหน้าหลังจากนี้ จะมีการรายงานเพิ่มเติมอีกครั้ง