นายกฯ ยันไร้ดีลปีศาจ ไม่ว่ารัฐบาลไหนพ่อก็กลับไทย- “โรม” โต้ ไม่เคยเป็นพันธมิตร
“แพทองธาร” ยันครอบครัวทำธุรกิจที่เขาใหญ่ถูกต้องตามกฎหมาย ชี้ ดิจิทัล วอลเล็ต ไม่ตรงปกแต่ตรงเป้า ซัดฝ่ายค้านไม่ว่ารัฐบาลไหน “ทักษิณ” ก็กลับไทย ย้ำไร้ดีลปีศาจ นิยามตัวเองเป็น Daddy’s girl ด้าน “โรม” โต้ ไม่เคยเป็นพันธมิตร ซัดตอน “ยิ่งลักษณ์” ถูกรัฐประหารก็เป็นคนแรกๆ ที่ออกมาต่อต้าน
เมื่อเวลา 15.41 น. วันที่ 25 มีนาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เห็นทางพรรคฝ่ายค้านอภิปรายรัฐบาลชุดอื่นจึงไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี จากนั้นได้ชี้แจงการออกโฉนด โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ในการประกอบกิจการโรงแรมและทุกอย่างเป็นไปตามความถูกต้อง เช่นเดียวกับกิจกรรมอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณเขาใหญ่ การครอบครองที่ดินและกิจการในครอบครัวเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
นายกฯ ยังขอบคุณฝ่ายค้านที่อภิปรายเรื่องคอลเซ็นเตอร์ ที่ตอนแรกนึกว่าจะอภิปรายเรื่องประกันสังคม ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลได้ปฏิบัติการและไปไกลกว่านั้น ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ที่ทางฝ่ายค้านมาช่วยสรุปข่าว พร้อมย้ำว่าตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มีการประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านทั้งไทย จีน เมียนมา ทั้งการจับ ปราบและการตัดไฟ ทำให้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะมาจากความร่วมมือจากทุกๆ ประเทศ ที่ไทยขอความร่วมมือและเป็นเรื่องน่ายินดีที่เรามีความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการซีลชายแดนเพราะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะหากทำในประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ก็อาจจะเกิดความขัดแย้งภายในได้ และหวังว่าฝ่ายค้านจะเข้าใจการทำงานแบบทีมเวิร์คและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
นายกฯ ยังกล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม ได้มีการตั้งศูนย์ AOC 1441 ที่รับแจ้งเหตุจากประชาชนตลอด 24 ชั่วโมงโดยได้รับระงับบัญชีม้าไปแล้ว 1.92 ล้านบัญชี รวมถึงมีการติดตามระบบบัญชีที่ผิดปกติ มีการตรวจสอบประวัติมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันในอนาคต และทำให้เปิดบัญชีมาได้ยากยิ่งขึ้น
ส่วนเรื่องซิมม้ามีความกวาดล้างไปแล้วกว่า 2.4 ล้านเลขหมายและระงับซิมต้องสงสัยที่มีการใช้งานผิดปกติไม่ผ่านการยืนยันตัวตนอีก 2.8 ล้านเลขหมาย มีการตรวจสอบผู้ใช้โมบายแบงค์กิ้งจำนวน 3.176 ล้านเลขหมาย ที่หากไม่มีการยืนยันตัวตนจะไม่สามารถใช้งานได้ ขณะที่สถิติการรับแจ้งคดีอาชญากรรมเรื่องคอลเซ็นเตอร์ก็ลดลงไป 20% ความเสียหายลดลงถึง 50% พร้อมทั้ง เร่งรัดจัดทำร่าง พ.ร.ก.มาตรการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกา
นายกฯ ยังชี้แจงเรื่องโครงการ Digital wallet ของเราพยายามประคับประคองอย่างดี เพราะเป้าหมายของเราคือการกระตุ้นเศรษฐกิจโดย 2 รอบแรกจำเป็นจะต้องแจกเป็นเงินสดแม้จะถูกมองว่าไม่ตรงปกแต่ตรงเป้าอย่างแน่นอน ตามข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจได้พูดไปแล้วในหลายรอบว่าเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศดีขึ้นอย่างไร ส่วนรอบที่ 3 จะเป็น Digital wallet แบบเต็มรูปแบบ จะมีการทดลองการใช้อย่างรัดกุมมากขึ้นโดยการทดลองในกลุ่มอายุ 16 ถึง 20 ปี ที่เป็นกลุ่มที่เรียนรู้เทคโนโลยีรวดเร็ว ส่วนเป้าหมายระยะยาวของโครงการนี้คือการยกระดับสังคมไทยเป็นสังคมดิจิทัล เชื่อมั่นว่าจะเกิดขึ้นภายในรัฐบาลนี้จะเกิดเป็นรูปธรรม ปกก็ตรง เป้าก็โดน
เมื่อเวลา 15.41 น. วันที่ 25 มีนาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เห็นทางพรรคฝ่ายค้านอภิปรายรัฐบาลชุดอื่นจึงไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี จากนั้นได้ชี้แจงการออกโฉนด โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ในการประกอบกิจการโรงแรมและทุกอย่างเป็นไปตามความถูกต้อง เช่นเดียวกับกิจกรรมอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณเขาใหญ่ การครอบครองที่ดินและกิจการในครอบครัวเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
นายกฯ ยังขอบคุณฝ่ายค้านที่อภิปรายเรื่องคอลเซ็นเตอร์ ที่ตอนแรกนึกว่าจะอภิปรายเรื่องประกันสังคม ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลได้ปฏิบัติการและไปไกลกว่านั้น ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ที่ทางฝ่ายค้านมาช่วยสรุปข่าว พร้อมย้ำว่าตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มีการประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านทั้งไทย จีน เมียนมา ทั้งการจับ ปราบและการตัดไฟ ทำให้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะมาจากความร่วมมือจากทุกๆ ประเทศ ที่ไทยขอความร่วมมือและเป็นเรื่องน่ายินดีที่เรามีความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการซีลชายแดนเพราะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะหากทำในประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ก็อาจจะเกิดความขัดแย้งภายในได้ และหวังว่าฝ่ายค้านจะเข้าใจการทำงานแบบทีมเวิร์คและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
นายกฯ ยังกล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม ได้มีการตั้งศูนย์ AOC 1441 ที่รับแจ้งเหตุจากประชาชนตลอด 24 ชั่วโมงโดยได้รับระงับบัญชีม้าไปแล้ว 1.92 ล้านบัญชี รวมถึงมีการติดตามระบบบัญชีที่ผิดปกติ มีการตรวจสอบประวัติมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันในอนาคต และทำให้เปิดบัญชีมาได้ยากยิ่งขึ้น
ส่วนเรื่องซิมม้ามีความกวาดล้างไปแล้วกว่า 2.4 ล้านเลขหมายและระงับซิมต้องสงสัยที่มีการใช้งานผิดปกติไม่ผ่านการยืนยันตัวตนอีก 2.8 ล้านเลขหมาย มีการตรวจสอบผู้ใช้โมบายแบงค์กิ้งจำนวน 3.176 ล้านเลขหมาย ที่หากไม่มีการยืนยันตัวตนจะไม่สามารถใช้งานได้ ขณะที่สถิติการรับแจ้งคดีอาชญากรรมเรื่องคอลเซ็นเตอร์ก็ลดลงไป 20% ความเสียหายลดลงถึง 50% พร้อมทั้ง เร่งรัดจัดทำร่าง พ.ร.ก.มาตรการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกา
นายกฯ ยังชี้แจงเรื่องโครงการ Digital wallet ของเราพยายามประคับประคองอย่างดี เพราะเป้าหมายของเราคือการกระตุ้นเศรษฐกิจโดย 2 รอบแรกจำเป็นจะต้องแจกเป็นเงินสดแม้จะถูกมองว่าไม่ตรงปกแต่ตรงเป้าอย่างแน่นอน ตามข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจได้พูดไปแล้วในหลายรอบว่าเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศดีขึ้นอย่างไร ส่วนรอบที่ 3 จะเป็น Digital wallet แบบเต็มรูปแบบ จะมีการทดลองการใช้อย่างรัดกุมมากขึ้นโดยการทดลองในกลุ่มอายุ 16 ถึง 20 ปี ที่เป็นกลุ่มที่เรียนรู้เทคโนโลยีรวดเร็ว ส่วนเป้าหมายระยะยาวของโครงการนี้คือการยกระดับสังคมไทยเป็นสังคมดิจิทัล เชื่อมั่นว่าจะเกิดขึ้นภายในรัฐบาลนี้จะเกิดเป็นรูปธรรม ปกก็ตรง เป้าก็โดน
“ทักษิณ” กลับไทย ยังไม่ได้เป็นนายกฯ
นายกฯ ยังกล่าวชี้แจงเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่าทางฝ่ายค้านกับตนเองมีความคิดเห็นที่ต่างกัน เพราะท่านเคยมีความเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตร ที่จ.ภูเก็ต แต่ตนเองเชื่อมั่นคงไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึกในตอนนั้นมาอภิปรายในวันนี้ ซึ่งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงในรายละเอียดไปหมดแล้ว
“ดิฉันจึงชี้แจงในฐานะลูกสาวคนหนึ่ง เพราะตั้งแต่ที่คุณพ่อกลับมาประเทศไทยจนถึงออกจากโรงพยาบาลชั้น 14 ดิฉันยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเลย ก็ไม่อยากให้อภิปรายให้เกิดความสับสน เหมือนกับว่าดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว และมีอำนาจในการสั่งข้าราชการหรือสั่งใครใดๆ ตอนนั้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอนนั้นไม่มีอำนาจใดๆ เลย” นายกฯ กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวชี้แจงเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่าทางฝ่ายค้านกับตนเองมีความคิดเห็นที่ต่างกัน เพราะท่านเคยมีความเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตร ที่จ.ภูเก็ต แต่ตนเองเชื่อมั่นคงไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึกในตอนนั้นมาอภิปรายในวันนี้ ซึ่งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงในรายละเอียดไปหมดแล้ว
“ดิฉันจึงชี้แจงในฐานะลูกสาวคนหนึ่ง เพราะตั้งแต่ที่คุณพ่อกลับมาประเทศไทยจนถึงออกจากโรงพยาบาลชั้น 14 ดิฉันยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเลย ก็ไม่อยากให้อภิปรายให้เกิดความสับสน เหมือนกับว่าดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว และมีอำนาจในการสั่งข้าราชการหรือสั่งใครใดๆ ตอนนั้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอนนั้นไม่มีอำนาจใดๆ เลย” นายกฯ กล่าว